เกมผ่าน 27 นาที โยนาส ฮอฟมันน์ จ่ายให้ มาร์วิน ฟรีดิชใส่สกอร์ให้ มึนเช่นกลัดบัค ออกนำ 1-0 แต่ให้หลัง 4 นาที ฟลอเรียน ไคนซ์ ยิงจุดโทษให้ โคโลญจ์ ตามตีเสมอ 1-1 ได้อย่างรวดเร็ว ทว่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ฟลอเรียน ไคนซ์กลับมาโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม พร้อมทั้งเสียจุดโทษ แล้วเป็น รามี่ เบนเซียบายนี่ ที่ซัดให้ มึนเช่นกลัดบัค ออกนำอีกหน 2-1
นาที 46 มึนเช่นกลัดบัค ชิงโจมตีเร็ว ขยับหนีเป็น 3-1 จากการยิงของลาร์ส สตินเดิ้ล แล้วประตู 4-1 ตามมาในนาทีที่ 76 จากจังหวะที่ โยนาส ฮอฟมันน์ แอสซิสต์ให้ รามี่ เบนเซียบายนี่ จบสกอร์ นาที 83 เดนิส ฮูเซียนบาซิซ ใส่สกอร์ให้ โคโลญจ์ ตามมาห่างๆ 2-4 ก่อนที่ มาร์คัส ตูราม จะมายิงปิดเกมในนาทีที่ 90+1 ส่งให้มึนเช่นกลัดบัค เอาชนะไปอย่างเด็ดขาด 5-2
มึนเช่นกลัดบัค ขึ้นที่6 ตามหลังจ่าฝูง 5 คะแนน หลังผ่าน 9 นัด มึนเช่นกลัดบัค เก็บเพิ่มเป็น 15 คะแนนขยับขึ้นมาอยู่อัน 6 ตามหลังจ่าฝูง ยูเนี่ยน เบอร์ลิน 5คะแนน โดยเกมนัดที่ 10 ลูกทีมของ ดาเนี่ยลฟาเกอ มีคิวไปเยือน โวล์ฟบวร์ก ในวันที่ 15 ตุลาคมต่อด้วยเกมเดเอฟเบ โพคาล กับ ดาร์มสตัดท์ ในวันที่ 19 ตุลาคม
ทางฝั่ง โคโลญจ์ หลังผ่าน 9 นัด เก็บได้ 13 คะแนน อยู่อันดับ 9 ตามหลังท็อปโฟร์ 3 คะแนน โดยเกมนัดที่ 10 ลูกทีมของ สเตฟเฟ่น บอมการ์ท มีคิวเปิดบ้านรับมือ เอาก์สบวร์ก ในวันที่ 16ตุลาคม แต่จะถูกคั่นด้วย เกมยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ กับ ปาร์ติซานเบลเกรด ในวันที่ 13 ตุลาคม
แมนออฟเดอะแมตช์ มาร์คัส ตูราม กองหน้ามึนเช่นกลัดบัค เกมนี้ มึนเช่นกลัดบัค ครองบอล 66% จ่ายบอล 611 โอกาสยิง 14 ครั้ง โดยที่ มาร์คัส ตูราม เจ้าของสกอร์5-2 โอกาสยิง 5 ครั้ง เลี้ยงผ่าน 2ครั้ง ผลงานดีที่สุดในสนาม (8.0 คะแนน)ตามด้วย รามี่ เบนเซียบายนี่ เจ้าของ 2 สกอร์ (7.7 คะแนน) และ โยนาส ฮอฟมันน์ แอสซิสต์ 2 ครั้งสร้างโอกาส 3 ครั้ง (7.7 คะแนน)
ทางฝั่ง โคโลญจ์ ครองบอล 34% จ่ายบอล 309 ครั้ง โอกาสยิง 5 ครั้งโดยที่ เดนิส ฮูเซียนบาซิซ เจ้าของสกอร์ 2-4 แท็คเกิล 3ครั้ง โอกาสยิง 1 ครั้ง ผลงานดีที่สุดในทีม (7.0คะแนน) ตามด้วย โยนาส เฮคเตอร์ แท็คเกิล 7 ครั้งตัดบอล 2 ครั้ง (6.8) และ สเตฟเฟ่นทิกเกส โอกาสยิง 1 ครั้ง ชนะลูกโด่ง 1 ครั้ง(6.1)
คุณอาจสนใจเรื่องเหล่านี้
