ทีมไทยU19เจ๊าอินโดนีเซีย 

 

การแข่งขันฟุตบอลชาย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์ อาเซียน ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน19ปี ทำได้แค่เสมอ อินโดนีเซียรุ่นอายุไม่เกิน19 ปี 0-0 เก็บ 7 แต้มจากสามนัด
ในศึกชิงแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ส่วนอีกคู่ ฟิลิปปินส์ แพ้ เมียนมา 1-3
และ เวียดนาม เอาชนะ บรูไน 2-0

รอบแบ่งกลุ่ม ที่ประเทศ อินโดนีเซีย ประจำวันที่ 6 กรกฎาคม 2565นัดที่สามของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ ทีมชาติไทยU19 พบทีมชาติอินโดนีเซียU19ที่สนามแพทริอ็อต คันดราบาก้า สเตเดียม
โดยเกมนี้ทีมชาติไทยสวมชุดเกราะสีขาวลงทำการแข่งขัน
ส่วนบรรยากาศในสนามแฟนบอลเข้ามาพอสมควร

11 คนแรกของทีมชาติไทย ประกอบด้วยผู้รักษาประตู 1. ณรงค์ศักดิ์เนื่องวงษา (GK) 3. ธวัชชัย อินทร์ประโคน 4. ธีร์กวิน จันทร์ศรี5. ชนภัช บัวพันธ์ (C) 6. สิทธาบุญหล้า 7. คคนะ คำยก 10. วินัย เอี่ยมโอด 12. ธนวัฒน์ ทรายเพชร 15. บุคฆอรี
เหล็มดี 17. ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย 25. พลเอก มณีกร แจนเซ่น

ครึ่งแรกเริ่มเกมมา 19 นาที ไทยได้ลุ้นจากการยิงของ ธวัชชัยอินทร์ประโคน แต่ก็หลุดเสาแรกออกไป หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายยังวัดกันที่ตรงกลางสนาม
และทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

เริ่มครึ่งหลังไทยบุกได้มากขึ้น นาทีที่ 64 ธีร์กวิน จันทร์ศรี ได้กระโดด วอลเลย์แต่ยังติดเซฟ ต่อมานาทีที่ 74 ไทยน่าได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ เสกสรรค์ ราตรีได้หลุดเดี่ยวแต่ยิงติดเซฟอีก จากนั้นนาทีเดียวกันเป็นคคนะ คำยกได้กระดกบอล
จะเสียบใต้คานแต่ยังติดเซฟอีกรอบ หลังจากนั้นนาทีที่ 76 เป็น ธวัชชัย อินทร์ประโคนที่หลอกยิงเสาแรกแต่ก็ยังโดนปัดออกไปได้ไทยยังได้บุกหนักต่อเนื่อง แต่เจาะไม่เข้า จบเกม เสมอกันไป 0-0 ทำให้ไทย มีเพิ่มเป็นเจ็ดคะแนน จากสามนัด

สำหรับเกมในนัดนี้ ทีมชาติไทยU19ไม่สามารถเอาชนะ ทีมชาติอินโดนีเซียU19ได้ทำให้เสมอกันไป 0-0 เก็บ 1 แต้มไปครอง ในรายการชิงแชมป์อาเชียนU19 ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเดียวกับ ฟิลิปปินส์ แพ้ เมียนมา 1-3 และเวียดนาม เอาชนะ บรูไน 2-0 แข่งครบ 3 นัดยังไทยรั้งจ่าฝูง โปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไปทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน19 ปี จะลงสนามในเกมที่สี่ของศึกชิงแชมป์อาเซียน พบกับ บรูไน ที่สนาม แพทริอ็อต
คันดราบาก้า ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 เวลา 17.00 น

สิ่งที่น่าสนใจ

 

All Posts
×

Almost done…

We just sent you an email. Please click the link in the email to confirm your subscription!

OKSubscriptions powered by Strikingly